ซึ่งหากมองย้อนไปถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีโดยใช้ไทม์ไลน์ของโลกอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทรงอิทธิพลให้กับคนทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เราจะสามารถเห็นถึงพัฒนาการที่ก้าวกระโดดอยู่เสมอ เริ่มตั้งแต่ Web 1.0 เป็นยุคแรกของอินเทอร์เน็ต โดยเป็นเว็บที่ตอบสนองแค่ทางเดียว ไม่ได้เชื่อมต่อกับ Database จึงไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ เป็นเหมือนหน้าหนังสือที่ทำได้เพียงแค่เข้าไปอ่านเท่านั้น และในยุค Web 1.0 ก็ยังไม่มีอัลกอรึทึมในการเปลี่ยนหน้าต่าง ๆ ทำให้อาจจะยากหากค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่ไม่ตรงกันแบบ 100% ยุคถัดมาคือยุคของ Web 2.0 ซึ่งก็คือโลกอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันนี้ เป็นยุครุ่งเรืองและมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเป็นอย่างมาก โดยมีพัฒนาการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้งานกันบนเว็บ มีการเชื่อม Database เพื่อเก็บข้อมูลบนเว็บไว้ มีโอกาสให้ Start up ต่าง ๆ พัฒนาสินค้าและบริการอย่างมากมาย ทั้ง Youtube, Fcaebook ส่งเสริมให้เกิด Social Media ตามมา คนสามารถสร้างคอนเทนต์ สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ โต้ตอบแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อมูลข้ามแอปพลิเคชั่นได้อีกด้วย ยุคต่อมาคือยุคแห่งอนาคต หรือ Web 3.0 คาดการณ์ว่าจะเป็นยุคที่จะสามารถทำงาน และวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ได้ใกล้เคียงกับความสามารถมนุษย์ และยังสามารถปล่อยให้ทำงานได้เองแบบอัตโนมัติ ยุคนี้จะทำให้เทคโนโลยีAI, Blockchain, Machine Learning, Big Data และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่น ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและวิวัฒนาการจนเหนือจินตนาการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ชีวิตในอนาคตมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะสามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างคน ระบบ และอุปกรณ์ IoT ได้แบบอัตโนมัติ การตัดสินใจต่าง ๆ จะเกิดขึ้นระหว่างคนและอุปกรณ์ ซึ่งจะทำให้สื่อต่าง ๆ บนโลกอินเทอร์เน็ตมีเสน่ห์และมีความพิเศษเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น โดยจะสร้างสิ่งที่ตอบโจทย์ ตรงตามความต้องการผู้คนได้มากกว่าเดิม อีกทั้งการเก็บข้อมูลในยุค Web 3.0 จะเป็นแบบกระจายอำนาจออกจากศูนย์กลาง หรือ Decentralized ซึ่งต่างไปจาก Web 2.0 รวมทั้งการรันข้อมูลบน Protocol จะเหมือนกับเทคโนโลยี Blockchain และ Cryptocurrency ซึ่งในอนาคตหากมีการทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ จะทำให้การทำ Microtransaction, Peer-to-Peer, การทำงานข้ามแอปพลิเคชั่นเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ จนถึงอาจจะสามารถเปลี่ยนโฉมหน้าแผนการตลาดหรือรูปแบบธุรกิจของหลายองค์กรไปเลยก็ว่าได้ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านคาดการณ์กันไว้ว่า ในยุค Web 3.0 ทำให้โลกดิจิทัลกับโลกความเป็นจริงจะถูกถักทอผสานเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ซึ่งโลกที่มีการกล่าวถึงไว้นั้น ก็ใกล้เคียงกับความเป็น Metaverse นั่นเอง ดังนั้น ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงของ Metaverse อย่างแน่นอน